รากฟันเทียมโดยไม่ต้องใช้สกรู ทางเลือกใหม่ในไทย
การปลูกฟันด้วยรากฟันเทียมแบบไม่ใช้สกรูกำลังเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทดแทนฟันที่สูญเสียไปในประเทศไทย วิธีการนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น ลดความเจ็บปวด ฟื้นตัวเร็วขึ้น และมีความแม่นยำสูง ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับนวัตกรรมทางทันตกรรมนี้อย่างละเอียด
รากฟันเทียมแบบไม่ใช้สกรูคืออะไร และทำงานอย่างไร?
รากฟันเทียมแบบไม่ใช้สกรูเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการปลูกฟัน โดยแทนที่จะใช้สกรูยึดรากฟันเทียมเข้ากับกระดูกขากรรไกร วิธีนี้จะใช้การกดหรือตอกรากฟันเทียมเข้าไปในกระดูกโดยตรง ทำให้ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและกระดูก รากฟันเทียมชนิดนี้มักทำจากไทเทเนียมที่มีพื้นผิวพิเศษ ช่วยให้กระดูกเชื่อมติดได้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีของการปลูกฟันแบบไม่ใช้สกรูมีอะไรบ้าง?
การปลูกฟันแบบไม่ใช้สกรูมีข้อดีหลายประการ เช่น:
-
ลดความเจ็บปวดระหว่างและหลังการผ่าตัด
-
ฟื้นตัวเร็วกว่าวิธีดั้งเดิม
-
ลดความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบ
-
เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรบาง
-
ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยกว่า
-
มีความแม่นยำสูงในการวางตำแหน่งรากฟันเทียม
ใครบ้างที่เหมาะสมกับการปลูกฟันแบบไม่ใช้สกรู?
การปลูกฟันแบบไม่ใช้สกรูเหมาะสำหรับผู้ป่วยหลายกลุ่ม ได้แก่:
-
ผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรบางหรืออ่อน
-
ผู้ที่ต้องการลดระยะเวลาการฟื้นตัว
-
ผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดจากการผ่าตัด
-
ผู้ที่ต้องการทดแทนฟันหลายซี่พร้อมกัน
-
ผู้สูงอายุที่อาจมีความเสี่ยงจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกวิธีการปลูกฟันควรปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล
ขั้นตอนการปลูกฟันแบบไม่ใช้สกรูเป็นอย่างไร?
ขั้นตอนการปลูกฟันแบบไม่ใช้สกรูมีดังนี้:
-
ตรวจประเมินสภาพช่องปากและกระดูกขากรรไกรด้วยเอกซเรย์ 3 มิติ
-
วางแผนการรักษาโดยใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เพื่อกำหนดตำแหน่งที่เหมาะสม
-
เตรียมช่องสำหรับใส่รากฟันเทียมโดยใช้เครื่องมือพิเศษ
-
ใส่รากฟันเทียมลงในตำแหน่งที่เตรียมไว้โดยการกดหรือตอกเบาๆ
-
ตรวจสอบความแน่นและตำแหน่งของรากฟันเทียม
-
ปิดแผลผ่าตัดและรอให้กระดูกเชื่อมติดกับรากฟันเทียม
-
ใส่ครอบฟันหรือฟันปลอมเมื่อกระดูกเชื่อมติดสมบูรณ์
มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการปลูกฟันแบบไม่ใช้สกรู?
แม้ว่าการปลูกฟันแบบไม่ใช้สกรูจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อควรระวังบางอย่าง เช่น:
-
ต้องใช้ทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
-
อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
-
ต้องดูแลรักษาความสะอาดช่องปากอย่างดีหลังการผ่าตัด
-
อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการปลูกฟันแบบดั้งเดิม
-
ในบางกรณี อาจต้องทำการเสริมกระดูกก่อนการปลูกฟัน
ผู้ที่สนใจควรปรึกษาทันต